แหล่งสินเชื่อ เจ้าของกิจการ บริการเงินทุนสำหรับเจ้าของกิจการ SME

ไม่ระบุ ไม่ระบุ
เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 16 ธ.ค. 2567 10:23 น.

ราคา 500,000 บาท

แหล่งสินเชื่อ เจ้าของกิจการ บริการเงินทุนสำหรับเจ้าของกิจการ SME
การ กู้ธนาคารไม่ผ่าน เป็นปัญหาที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบทั้งในด้านการเงินและการดำเนินงาน หากคุณกำลังประสบปัญหานี้ บทความนี้จะช่วยคุณเข้าใจสาเหตุธนาคารไม่อนุมัติ รวมถึงวิธีการเตรียมตัวก่อนการขอยื่นขอสินเชื่ออีกครั้ง และทางเลือกอื่น ๆ ที่สามารถพิจารณาได้


5 สาเหตุที่ กู้ธนาคารไม่ผ่าน


1. มีประวัติเสีย

สาเหตุหลักที่ทำให้การยื่นขอสินเชื่อธนาคารไม่ผ่าน คือประวัติการเงินของผู้ยื่นขอสินเชื่อ หากเคยมีปัญหาเกี่ยวกับการผิดนัดชำระ หรือมีเครดิตบูโรที่ไม่ดี ธนาคารอาจมองว่ามีความเสี่ยงหากอนุมัติไปจะเกิดปัญหาในการชำระคืน


2. รายได้น้อย

หากรายได้ของคุณไม่มั่นคงหรือไม่เพียงพอในการชำระหนี้ ธนาคารจะปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อทันที เนื่องจากธนาคารจะคำนวนภาระหนี้และรายได้ หากประเมินว่าผู้กู้ส่งไม่ไหว ธนาคารจึงต้องปฏิเสธ


3. ภาระหนี้เยอะ

หากคุณมีภาระหนี้สินจำนวนมากที่ต้องจ่าย ธนาคารจะพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ และอาจทำให้การขอกู้ไม่ผ่าน เนื่องจากภาระหนี้ที่สูงเกินไป


4. ไม่มีหลักประกันค้ำสินเชื่อบางประเภท เช่น สินเชื่อบ้านหรือสินเชื่อธุรกิจ ธนาคารอาจต้องการใช้หลักประกันหรือตัวประกันในการขอสินเชื่อ หากไม่มีหลักประกัน ธนาคารอาจปฏิเสธคำขอ หรือได้วงเงินที่ต่ำกว่าที่ยื่น


5. ข้อมูลเอกสารไม่ครบถ้วนไม่ชัดเจน

การขอสินเชื่อจากธนาคาร หากข้อมูลหรือเอกสารที่ยื่นไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นปัจจุบัน ธนาคารจะปฏิเสธการการยื่นขอสินเชื่อทันที


หาก ขอสินเชื่อไม่ผ่าน การขอสินเชื่อใหม่สามารถทำได้อีกครั้ง แต่ควรระยะเวลาหรือเวลาที่เหมาะสมใน การขอสินเชื่อใหม่จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย


1. สาเหตุที่ทำให้การ ขอสินเชื่อไม่ผ่าน : หากการยื่นขอสินเชื่อไม่ผ่านเนื่องจากปัญหาทางด้านการเงิน เช่น ประวัติการชำระไม่ดี หรือมีหนี้สินจำนวนมาก อาจต้องใช้เวลานานกว่าจะแก้ไขสถานะการเงินให้พร้อมสำหรับการยื่นขอสินเชื่อใหม่อีกครั้ง ปัญหานี้โดยทั่วไปแล้ว ควรรอประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับการปรับปรุงเครดิตบูโรและหนี้สินที่มีอยู่


2. การปรับปรุงสถานะการเงิน : หากกำลังปรับปรุงสถานะการเงิน เช่น มีการชำระหนี้ที่ค้างอยู่ หรือทำให้มีรายได้ที่มั่นคงขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการยื่นขอสินเชื่อครั้งถัดไป หากเป็นกรณีนี้ คุณสามารถขอสินเชื่อใหม่ได้เร็วขึ้นหลังจากที่มีการปรับปรุงสถานะการเงินให้ดีขึ้น ควรรอประมาณ 6 เดือนถึง 9 เดือน หรือภาระหนี้หมด


3. นโยบายของธนาคารหรือสถาบันการเงิน : บางธนาคารหรือสถาบันการเงินอาจมีกฎระเบียบภายในเกี่ยวกับระยะเวลาในการขอสินเชื่อใหม่หลังจากที่ถูกปฏิเสธ โดยส่วนใหญ่จะระบุให้รอประมาณ 3 ถึง 6 เดือน หรือมากกว่านั้น เพื่อให้ผู้ยื่นกู้มีเวลาในการปรับปรุงสถานะการเงิน


ดังนั้นหากการขอสินเชื่อถูกปฏิเสธ ควรรอประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับสาเหตุและสถานะการเงินของผู้ยื่นกู้ และควรปรับปรุงประวัติการเงิน เช่น การชำระหนี้ที่ค้างอยู่ให้หมดหรือปรับเพิ่มรายได้ให้มั่นคง เพื่อเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อใหม่ให้ผ่านการอนุมัติ


4 วิธีการเตรียมตัวก่อนขอยื่นกู้อีกครั้ง


หากการ กู้ธนาคารไม่ผ่าน ผู้ยื่นขอสินเชื่อสามารถเตรียมตัวใหม่และเพิ่มโอกาสในการขอสินเชื่อได้


1. ปรับปรุงเครดิตบูโรหากผู้ยื่นกู้มีประวัติการเงินที่ไม่ดี ควรเริ่มแก้ไขปัญหาการเงินก่อน เช่น ชำระหนี้ที่ค้างอยู่ หรือปรับโครงสร้างหนี้โดยการยื่นข้อตกลงกับเจ้าหนี้


2. เพิ่มรายได้การเพิ่มรายได้หรือธุรกิจเสริมจะช่วยให้คุณมีความสามารถในการชำระหนี้ได้มากขึ้น ธนาคารจะมองเห็นความสามารถในการชำระเงินกู้มากขึ้น จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น


3. ลดหนี้สินที่มีอยู่หากมีหนี้สินจำนวนมาก ควรลดหนี้ให้ต่ำที่สุด เพื่อไม่ให้เกินกว่ารายได้ที่มีอยู่ และทำให้ธนาคารมั่นใจว่าเราสามารถชำระหนี้ใหม่ได้


4. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วนตรวจสอบว่าเอกสารที่คุณยื่นให้ธนาคารครบถ้วนและถูกต้อง เช่น เอกสารการเงิน เอกสารจดทะเบียน สัญญาจ้าง หรือสัญญาซื้อขายต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้การพิจารณาเร็วขึ้น


ทางเลือกอื่นๆ หาก กู้ธนาคารไม่ผ่าน


หากผู้ยื่นขอสินเชื่อประสบปัญหา กู้ธนาคารไม่ผ่าน ลองยื่นใหม่แล้วก็ยังไม่ได้รับอนุมัติ หรือ ขอสินเชื่อไม่ผ่าน จากสถาบันการเงินดั้งเดิม คุณสามารถพิจารณาทางเลือกอื่น ๆ เช่น:


1. ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินอื่น หากการขอกู้จากธนาคารเดิมไม่ผ่าน ลองติดต่อสถาบันการเงินหรือบริษัทสินเชื่ออื่นๆ ที่มีเกณฑ์การพิจารณาที่ยืดหยุ่นกว่า


2. ใช้บริการ สินเชื่ออนุมัติง่าย ปัจจุบันมีบริการสินเชื่ออนุมัติง่ายที่ไม่ต้องใช้หลักประกันและใช้เอกสารน้อย เช่น สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อเงินด่วน ซึ่งอาจช่วยให้คุณได้รับเงินกู้เร็วขึ้น


3. พิจารณาสินเชื่อจากรัฐบาลหรือสถาบันการเงินเฉพาะกิจ การขอสินเชื่อจากโครงการของภาครัฐหรือสถาบันการเงินภาครัฐบางแห่งอาจมีเงื่อนไขที่ผ่อนปรนและไม่เคร่งครัดเหมือนธนาคารทั่วไป


4. สินเชื่อเอกชน หรือแหล่งเงินทุนภายนอก การยื่นขอสินเชื่อจากธนาคารอาจใช้เวลานานและการอนุมัติที่ยากกว่า ผู้กู้สามารถหาแหล่งเงินทุนอื่นๆ ที่อนุมัติง่ายกว่า แต่อัตราดอกเบี้ย อาจจะสูงกว่าธนาคาร ใช้เป็นระยะสั้นๆเพื่อให้ผ่านช่วงเหตุการฉุกเฉินต่างๆ

กู้ธนาคารไม่ผ่าน

แต่หากลองยื่นหลายรอบแล้วยังไม่สามารถขอกู้จากธนาคารได้ ผู้ยื่นกู้จะต้องปรับปรุงด้านการเงิน หรือพิจารณาใช้บริการสินเชื่อเอกชน Getcash-consultant ควบคู่ไปกับการแก้ไขทางด้านการเงิน ซึ่งเป็นทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็วใน แต่ให้บริการสำหรับผู้ประกอบการและเจ้าของกิจการเท่านั้น


การที่ทางธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อ เป็นปัญหาที่หลายท่านไม่อยากเผชิญ แต่คุณสามารถปรับปรุงสถานการณ์โดยการเตรียมตัวให้ดีขึ้น หรือหาทางเลือกอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ

ดูรายละเอียดหน้าเว็บไซด์ https://www.getcash-consultant.com/